เรื่องเล่าจาก CCF

แสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด ของ “น้องเนย” จ.เลย

        “ซีซีเอฟ เป็นแสงสว่างนำทาง ช่วยให้หนูได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง คำพูดของน้องเนยที่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ฯ จ.เลย ในวันที่น้องและแม่ เดินทางมาที่โครงการ ฯ เพื่อติดต่อและรับค่าเดินทางเพื่อไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกว่า 125 กิโลเมตร

       “เนย” เคยป่วยหนัก เมื่อปลายปี 2565 แพทย์ตรวจพบว่าน้องเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ระยะรุนแรงต้องฉีดยาไต้สะดือทุกวัน และอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ตาน้องบอด มองไม่เห็นไม่สามารถมาโรงเรียนได้  โรงเรียนจึงให้พักการเรียนเพื่อรักษาตัว 1 เทอม ตอนนั้นเนยได้แต่ร้องไห้ เสียใจ และรู้สึกท้อแท้ที่คิดว่าตัวเองจะต้องอยู่กับโลกมืดไปตลอดชีวิตและจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งเธอคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระให้กับแม่

        ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีซ่อนอยู่ เมื่อมูลนิธิ ฯ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กและได้ไปเยี่ยมครอบครัว จึงได้ช่วยเหลือน้องเนยเรื่องการเดินทางไปโรงพยาบาล รักษาโรคเบาหวานและความดันพร้อมกับรักษาดวงตา กับแพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลจังหวัดเลยที่มีอุปกรณ์ที่พร้อมและทันสมัย รักษาด้านสายตา ทำให้น้องเนยได้รักษาทางการทำ TC สแกนสายตาอย่างต่อเนื่อง และเอกซเรย์สมองที่เกี่ยวข้องกับสายตา รวมทั้งยิงเลเซอร์สายตา รักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เนยเริ่มมองเห็นลางๆ สามารถไปโรงเรียนได้ โดยนั่งรถรับส่งไปที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ และเดินไปห้องกับเพื่อนได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนได้ แต่ด้านการเรียนน้องเนยยังต้องเรียนผ่านทางครูอ่านให้เนยตอบและยังเขียนหนังสือไม่ได้

        “ตอนที่หนูมองไม่เห็น มันค่อยๆ เลือนราง และก็มืดลง หนูตกใจและเสียใจมากหนูร้องให้ หมดกำลังใจ ท้อแท้ทุกอย่างในชีวิตจนไม่อยากมีชีวิตต่อไปพอรู้ว่าต้องตาบอด ไม่ได้ไปโรงเรียน ก็หมดกำลังใจที่จะดำเนินชีวิต ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อไปดี อนาคตจะเป็นอย่างไร การเรียนล่ะ หนูใช้เวลาผ่านไปอย่างทรมานมาก ได้ยินแต่เสียงแม่และน้องที่ปลอบใจอยู่ข้างๆ ทำให้หนูอุ่นใจ และมีกำลังใจเพิ่มขึ้น หนูเลยให้กำลังใจตัวเองว่าหนูจะสู้ต่อไป เพื่อแม่และครอบครัวค่ะ”

       “หนูขอบคุณมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ และพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนค่ะที่ช่วยเหลือให้ชีวิตใหม่กับหนู ทำให้หนูได้รับการรักษาและสามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ไปเรียนหนังสือกับเพื่อนๆ ถึงแม้ว่าหนูจะทำไม่ได้เหมือนคนปกติทั่วไปได้ทั้งหมด แต่การกลับมาครั้งนี้หนูต้องปรับชีวิตใหม่ โดยเฉพาะการเรียนหนังสือรวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำร่วมกับเพื่อน ที่สำคัญ คือ ต้องปรับเรื่องการเดินทางมาโรงเรียนเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ เพราะกำลังใจที่ได้รับจากบุคคลรอบข้าง หนูจึงมีแรงใจที่จะต่อสู้ต่อไป ถึงแม้ว่าสายตาจะพิการ แต่หนูไม่เคยปล่อยให้ใจของตนเองต้องพิการตามไปด้วย และใช้ทุกเวลา ทุกนาที อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด” น้องเนยเล่าความรู้สึกทั้งหมดจากหัวใจให้พวกเราฟัง

 

ร่วมบริจาคช่วยเหลือเด็ก

โครงการ โครงการอุปการะเด็ก

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร

ข้อมูลของท่านจะถูกจัดเก็บรักษาความปลอดภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

English

ร่วมบริจาคช่วยเหลือเด็ก