จะโรงเรียน เปิด หรือ โรงเรียน ปิด อยู่บ้าน

เด็ก ๆ ต้องได้ทานอาหารเช้า

ทุพโภชนาการ ตัวเล็กกว่าวัย เพราะไม่ได้กิน "ข้าวเช้า"


          น้องเต้ เด็กชายวัย 7 ปี ที่มีรูปร่างเล็กกว่าเด็กวัยเดียวกัน เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารตามที่วัยของเขาควรได้รับ น้องเต้ อาศัยอยู่กับ ตา-ยาย ที่ชรา ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่ของน้องเต้ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว และพ่อทิ้งไปตั้งแต่เล็ก ลำพังเบี้ยคนชราของ ตา-ยาย ไม่พอเลี้ยงปากท้องทั้งบ้านได้ วันไหนมีงานรับจ้าง หรือได้ไปร่อนทอง ก็จะได้ค่าจ้างวันละ 150 บาท พอที่จะซื้อข้าวสารอาหารแห้ง แต่นั่นก็หมายถึงว่าน้องเต้ก็จะไม่มีข้าวเช้ากินเช่นกัน เพราะ ตา-ยาย ต้องออกไปทำงานกันแต่เช้า น้องเต้จึงต้องทนหิวข้าวไปจนถึงมื้อเที่ยงที่โรงเรียน ส่วนมื้อเย็นถ้าโชคดีมีข้าวก้นบาตรจากวัด หรือครูแบ่งอาหารกลางวันให้กลับบ้านไปกินมื้อเย็นก็พอประทังหิวได้บ้าง ส่งผลให้น้องเต้มีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่มีสมาธิในการเรียน ซึมเศร้า และไม่ค่อยพูด


อยากไปโรงเรียนทุกวันเพราะจะได้กิน “มื้อเช้า” ที่แสนอร่อย


          น้องเต้บอกว่า “ทุกวันผมตื่นนอนตอนเช้ามา จะช่วยตากับยายล้างจาน กวาดขยะในบ้านและรอบ ๆ บ้าน เสร็จแล้วก็จะอาบน้ำไปโรงเรียนครับ แต่ไม่มีอาหารให้กินที่บ้าน บางวันไปโรงเรียนต้องอดข้าวเช้าครับ ผมหิวมาก แต่ต้องทนครับ” จนเมื่อโรงเรียนได้รับทุนสนับสนุนให้มีการจัดอาหารเช้าสำหรับเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ น้องเต้จึงได้รับการดูแลจัดอาหารเช้าให้ น้องเต้จึงดูมีความสุข และบอกกับทุกคนว่า อยากไปโรงเรียนทุกวัน เพราะจะได้มีอาหารเช้ารับประทานนั่นเอง

"มื้อเช้าเพื่อน้อง อิ่มท้องทุกวัน"


มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ประสานโรงเรียน ผู้ปกครอง และจิตอาสาในชุมชน ปรับรูปแบบการสนับสนุนอาหารเช้าใน 3 รูปแบบ